นิวซีแลนด์ตั้งอยู่บนรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกแปซิฟิก ออสเตรเลีย และอินเดีย ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงสูงต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติหลายประเภท ได้แก่
แผ่นดินไหว นิวซีแลนด์ตั้งอยู่ในบริเวณที่มีแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง โดยพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกและตอนใต้ของประเทศมีความเสี่ยงสูงต่อแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ (Magnitude 7.0 หรือมากกว่า) ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานและทรัพย์สินอย่างกว้างขวาง
สึนามิ แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในมหาสมุทรแปซิฟิกสามารถก่อให้เกิดคลื่นสึนามิได้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชายฝั่งของนิวซีแลนด์ได้เช่นกัน
พายุ นิวซีแลนด์ตั้งอยู่ในบริเวณที่มีพายุรุนแรงบ่อยครั้ง โดยพายุเหล่านี้อาจก่อให้เกิดน้ำท่วม ลมแรง และคลื่นสูงได้
ไฟป่า นิวซีแลนด์มีสภาพอากาศที่แห้งแล้งในบางพื้นที่ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าได้ โดยไฟป่าเหล่านี้อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อป่าไม้ ทรัพย์สิน และสุขภาพของประชาชน
ภัยแล้ง นิวซีแลนด์มีภูมิอากาศแบบอบอุ่นชื้นในบางพื้นที่ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภัยแล้งได้ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อการเกษตรและแหล่งน้ำ
นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังอาจทำให้ความเสี่ยงด้านภัยพิบัติของนิวซีแลนด์เพิ่มขึ้น โดยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น และพายุมีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายที่รุนแรงขึ้นจากภัยพิบัติดังกล่าว
รัฐบาลนิวซีแลนด์ได้ตระหนักถึงความเสี่ยงด้านภัยพิบัติของประเทศ และได้ดำเนินการเพื่อลดความเสี่ยงเหล่านี้ โดยรัฐบาลได้จัดทำแผนการจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ (National Disaster Resilience Strategy) ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การเตรียมความพร้อมของประชาชน ภาคธุรกิจ และรัฐบาลท้องถิ่นในการรับมือกับภัยพิบัติ
นอกจากนี้ รัฐบาลนิวซีแลนด์ยังได้ลงทุนในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของประเทศให้สามารถทนทานต่อภัยพิบัติได้ดีขึ้น เช่น การสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วม การสร้างระบบเตือนภัยสึนามิ และการปลูกป่าเพื่อลดความเสี่ยงจากไฟป่า
การเตรียมตัวรับมือภัยพิบัติเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรทำ เพื่อลดความเสี่ยงและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากภัยพิบัติ โดยการเตรียมตัวสามารถทำได้ ดังนี้
การเตรียมตัวก่อนเกิดภัยพิบัติ
ศึกษาข้อมูลความเสี่ยงด้านภัยพิบัติในพื้นที่ เช่น ภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น ความรุนแรงของภัยพิบัติ และเส้นทางอพยพ
จัดทำแผนฉุกเฉิน ระบุขั้นตอนการปฏิบัติเมื่อเกิดภัยพิบัติ เช่น เส้นทางอพยพ สถานที่หลบภัย และเบอร์ติดต่อฉุกเฉิน
เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น อาหาร น้ำ ยารักษาโรค ไฟฉาย วิทยุ ไฟแช็ก แบตเตอรี่สำรอง ยาประจำตัว และเสื้อผ้า
ตรวจสอบบ้านเรือนให้อยู่ในสภาพแข็งแรง เช่น ตรึงประตูหน้าต่างให้มั่นคง ตัดแต่งกิ่งไม้และต้นไม้ที่เสี่ยงต่อการล้มทับ
ฝึกซ้อมแผนฉุกเฉิน อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
การเตรียมตัวเมื่อเกิดภัยพิบัติ
ฟังประกาศการเตือนภัยอย่างเคร่งครัด และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่
อพยพไปยังสถานที่ปลอดภัย ตามเส้นทางที่ระบุไว้ในแผนฉุกเฉิน
หากไม่สามารถอพยพได้ ให้เตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติในพื้นที่ เช่น ปิดประตูหน้าต่าง ปิดแก๊ส และเตรียมอาหารและน้ำให้เพียงพอ
การเตรียมตัวหลังเกิดภัยพิบัติ
ตรวจสอบความปลอดภัยของตนเองและคนรอบข้าง
ช่วยเหลือผู้ประสบภัยหากจำเป็น
ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่
อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับเตรียมรับมือภัยพิบัติ ได้แก่
อาหารและน้ำ อย่างน้อย 3 วันต่อคน
ยารักษาโรค ที่จำเป็นสำหรับใช้เป็นประจำ และยารักษาโรคประจำตัว
ไฟฉาย วิทยุ** แบตเตอรี่สำรอง** ยาประจำตัว** เสื้อผ้า** อุปกรณ์สื่อสาร** เงินสด** เอกสารสำคัญ**
นอกจากนี้ อาจเตรียมอุปกรณ์อื่นๆ เพิ่มเติม ตามความเหมาะสม เช่น หมวกนิรภัย ถุงมือ ผ้าอ้อมสำเร็จรูป อาหารสำหรับเด็กเล็ก เป็นต้น
สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อภัยพิบัติเป็นพิเศษ เช่น พื้นที่ชายฝั่ง พื้นที่เสี่ยงต่อแผ่นดินไหว พื้นที่เสี่ยงต่อไฟป่า เป็นต้น ควรเตรียมอุปกรณ์เพิ่มเติมให้เหมาะสมกับประเภทของภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น
ดูข้อมูล Civil Defence